(Fic Star Trek) The Logical Thing To Do – Spock x Kirk - NC17
Original story :
Star trek
Pairing : Spock / Jim Kirk
Author : angelus2hot
Interpreter : KZGlowyinG
Warning : Yaoi / BL
**********************************
ขอออกตัวก่อนว่าไม่เก่งด้านภาษาเลย
แต่เป็นการสนองความต้องการตัวเองล้วนๆ จะไม่มีตรงกับต้นฉบับอย่างสมบูรณ์
เนื่องจากภาษาที่แปลออกมาอาจจะแข็งเกินไป เลยต้องมีการเกลาภาษาให้ถูกจริตผู้อ่าน
(ผู้แปล) เองคะ
***********************************
สิ่งสุดท้ายที่เขาคาดคิดก็ก็คือการใช้ชีวิตที่จะถูกแช่แข็งอย่างวันนี้...
บนดาวเคราะห์ร้าง แต่คำสั่งก็ยังเป็นคำสั่ง Enterprise ถูกส่งให้ไปสำรวจหาว่าทำไมดาวเคราะห์ที่สมบูรณ์แบบอย่างที่นี้จึงถูกทิ้งร้าง
แน่นอนว่ามันหนาว แต่มากเกินไปที่จะคาดว่าอยู่ในช่วงฤดูหนาว ในความเป็นจริงควรร่วมมือกันหลายๆ
ทีม แต่คำสั่งของ Starfleet ไม่ได้รับการติดต่อเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว
เคิร์กกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก เมื่อสป็อคเอนตัวลงเพื่ออ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการรอดชีวิตจากความหนาวเย็น
และรีบซ่อนทันทีที่ถูกจับได้ เขากำลังหาทางเพื่อกลับไปที่ยาน ทุกครั้งที่ใช้มีโอกาสได้อยู่กับสป็อคเพียงลำพัง
เขาเริ่มจะสับสนกับความรู้สึกดีๆ ของเขา ใน Enterprise เขายังพอมีการป้องกัน… แต่บนดาวแห่งนี้พวกเขาอยู่ตามลำพัง ไม่มีใครได้ยินหรือเห็นตัดสินพวกเขา
เสียงของสป็อค และเสียงฟ้าร้องทำให้เขาออกจากความคิดของเขา
เคิร์กกับสป็อครีบกลับเข้าไปในกระสวยยานขนาดเล็กทันทีที่อสนีบาตผ่าลงบนพื้นดินและลูกเห็บขนาดใหญ่เริ่มตกลงมา
พวกเขายืนอยู่ที่ประตูมองดูปรากฏการณ์ธรรมชาติด้านนอกที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
กัปตันหันไปมองสป็อค “ฉันคิดว่าหาสาเหตุที่ดาวเคราะห์ดวงนี้รกร้างได้แล้วล่ะ”
ก่อนที่สป็อคจะตอบเสียงจากเครื่องสื่อสารของเคิร์กดังขัดจังหวะ
“Enterprise เรียกกัปตันเคิร์ก”
เขาพลิกเปิดเครื่องสื่อสารของเขา “นี่เคิร์ก”
“กัปตันพายุบนดาวเคราะห์นี้กำลังทำความเสียหายให้กับระบบของ
Enterprise” แม้เสียงของสก็อตตี้จะถูกรบกวนด้วยเสียงฟ้าร้อง
แต่ยังดังพอที่จะได้ยิน
“นำยานของผมออกจากที่นี่”
เคิร์กตอบโดยไม่คิดต้องเลย เขาจะไม่เอา Enterprise มาเสี่ยงแน่ๆ
เขาต้องการให้เธอออกจากอันตรายทันที
“แล้วคุณกับคุณสป็อคล่ะกัปตัน?”
“เราสบายดี
ยานขนส่งมีความพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ตราบเท่าที่เราอยู่บนพื้นดิน ผมจะไม่เสี่ยงบินท่ามกลางพายุเหล่านี้”
หากพายุกำลังทำความเสียหายกับระบบ Enterprises เขาก็นึกภาพได้เลยว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้างกับยานขนส่งเล็กๆ นี้ “และตราบใดที่ยังไม่มีแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด เรายังอยู่ที่นี่ได้” เสียงหัวเราะล้อเลียนของเขาไม่ได้มีการตอบสนองที่เขาหวังไว้
สป็อคจ้องเขาเขม้นในเงามืด “ตรวจสอบพายุและห้ามกลับมาจนกว่าจะมีการกระจายตัวของมันทั้งหมด”
“เออ...รับทราบครับ”
และสัญญาณสื่อสารหายไป
Enterprise และทีมงานของเธอแทบไม่เคยออกจากวงโคจรของดาวเคราะห์เมื่อสิ่งต่างๆ เริ่มผิดพลาด
สป็อคเลิกคิ้วขึ้นขณะที่เขาจ้องที่แผงหน้าปัดก่อนที่เขาจะหันไปบอกกัปตันด้วยข่าวร้าย
ตาของเคิร์กเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ ขณะที่สป็อคพูดจบ “ระบบความร้อนทำงานผิดปกติ?” เขาไม่อยากจะเชื่อเลย มันเป็นไปได้ยังไง? เคิร์กมองเขม้นสป็อค “นายต้องล้อเล่นแน่ๆ”
สป็อคเลิกคิ้วขึ้น “ผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้ล้อเล่นครับ”
ที่เสียงเกือบปรามาสของสป็อค ทำให้เคิร์กได้สติอย่างรวดเร็ว “แน่นอนนายไม่ได้ล้อเล่น ยกโทษให้ฉันด้วยสป็อค
ฉันไม่เคยสงสัยนาย… นายพอหาสาเหตุถึงสิ่งที่อาจทำให้เกิดความผิดปกติ
แล้วซ่อมมันได้ไหม”
แม้ว่าเขาพบว่ามันยากที่จะเข้าใจว่าทำไมทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัปตัน
ผู้ที่น่าจะรู้จักเขาดียิ่งกว่าใคร คิดว่าเขาล้อเล่น เขาไม่เคยที่จะไม่พบอารมณ์สับสนชวนงงของมนุษย์
สป็อคส่ายหัวและรีบกลับเข้าเรื่อง “ตอนนี้ไม่ได้ครับกัปตัน” เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเคิร์กเขารีบพูดต่อ
“แม้ว่าผมต้องเสี่ยงเดา ผมจะบอกว่าพายุรอบตัวเราอาจเป็นสาเหตุ”
เป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่จะติดอยู่บนดาวเคราะห์ที่รกร้าง “มันแย่แค่ไหน? มีวิธีที่เราสามารถทำมันไหมจนกว่า Enterprise จะกลับมา?”
“ผมไม่แน่ใจครับกัปตัน
แต่ผมจะพยายามหาคำตอบสำหรับคำถามของคุณ” ขณะที่สป็อคก้มลงไปในพื้นที่เล็กๆ
เพื่อตรวจสอบดูว่าความผิดพลาดนั้นเขาสามารถแก้ไขได้หรือไม่
กัปตันเคิร์กเฝ้าดู ขณะที่นิ้วมือของต้นเรือของเขาไล้ผ่านสายไฟและส่วนประกอบเพื่อค้นหาปัญหา
หวังว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายๆ และพวกเขาก็จะออกไปได้ภายในหนึ่งชั่วโมง
ไม่กี่นาทีต่อมาสป็อคก็ลุกขึ้นและนั่งลงบนเก้าอี้ สถานการณ์ของพวกเขาเริ่มเลวร้ายยิ่งขึ้น
ตอนนี้ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือบอกกัปตัน เขาไม่อ้อมค้อม แค่พูดตรงๆ “ทั้งสองหน่วยกับสิ่งที่เราสามารถใช้งานได้
ไม่สามารถแก้ไขได้ครับ”
“ดี
ดี...อย่างน้อยก็ไม่เย็นเกินไปที่จะทน” เขาหลุดถามออกไปทันทีที่สังเกตุเห็นอาการแปลกบนใบหน้าสป็อค
“อะไร?”
“อุณหภูมิของดาวเคราะห์จะลดลงครับ
ผมคาดว่าจะต่ำกว่า 0 องศาภายใน 2 ชั่วโมงถัดไป” ลมหายใจของเคิร์กรุนแรงขึ้น เขาพูดต่อ
“อย่างไรก็ตาม ผมอาจจะสามารถ
นำชิ้นส่วนของอีกเครื่องยนต์หนึ่งมาซ่อมหรือสร้างอีกเครื่องยนต์หนึ่ง อย่างน้อยก็ชั่วคราว”
“ดังนั้นสิ่งที่นายกำลังบอกฉันก็คือเราเลือกที่จะอบอุ่นหรือเราจะหายใจ
แต่เราไม่สามารถทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันได้...ใช่ไหม?”
สป็อคเอียงศีรษะของเขาเล็กน้อยเป็นการยืนยัน แต่ไม่ได้พูดอะไร
“ไม่เป็นไร
มันคงไม่แย่เท่าไรหรอก อย่างน้อยที่สุดถ้าเราสามารถหายใจได้ เราก็ควรที่จะหาวิธีรักษาความร้อนร่างกายเอาไว้”
เคิร์กพยายามอย่างหนักที่จะไม่ปล่อยให้ความคิดลามกออกมา โดยไม่ได้ตั้งใจจะแอบแฝงอะไรในคำพูด
แต่มันก็เป็นการต่อสู้ที่เขาไม่สามารถชนะได้ เขารู้วิธีที่พวกเขาสามารถรักษาความร้อนและความอบอุ่น
หลายวิธีที่น่าพอใจมากในความเป็นจริง เขารู้สึกตื่นเต้นที่เพียงคิดวิธีรักษาความร้อนในร่างกายกับสป็อค
เขาเกือบจะถอนหายใจ มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการให้สป็อครู้ เคิร์กรีบขยับศีรษะขณะที่เขาแกล้งทำเป็นค้นหาบางสิ่งบางอย่าง
“คุณสบายดีหรือเปล่ากัปตัน?”
เคิร์กหันไปมอง “ฉันสบายดี...สป็อค และก็เรียกฉันว่าจิมด้วย
จำได้ไหม?” สป็อคมองเคิร์กก่อนที่เขาจะเอียงหัวของเขาเป็นการรับทราบ
เสียงของพายุที่แรงขึ้นขณะที่พวกเขาขยับตัวเพื่อรักษาความร้อน แต่ความหนาวเย็นเริ่มคืบคลานภายในยานขนส่ง
เคิร์กเริ่มค้นหาอย่างรวดเร็วในแผงควบคุม และในที่สุดก็สามารถหาผ้าห่มความร้อนได้
“ของเหล่านี้มีไม่มาก
แต่เผื่อเอาไว้นะ” เขาส่งให้สป็อคก่อนที่เขาจะวางเครื่องสื่อสารอยู่ที่ด้านบนของคอนโซล
หวังว่า Enterprise จะมันกลับมาก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะแข็งตาย
“กัปตัน?”
เขาถอนหายใจ “จิม...สป็อค”
สป็อคเอียงศีรษะ “มีวิธีสำหรับเราในการรักษาความร้อน แม้ว่าผมไม่แน่ใจว่าคุณต้องการ...”
เคิร์กเป่ามือของเขาก่อนที่เขาจะถูกกัน ขณะที่สป็อคถูกขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว
“บอกฉันสิสป็อค
ฉันเชื่อนาย”
“เราสามารถแบ่งปันความร้อนในร่างกายของเราได้
ในช่วงเวลานี้มันเป็นเพียงการช่วยเหลือกันและกันเท่านั้น”
ปากของเคิร์กขบลงอย่างหงุดหงิดกับข้อเสนอแนะ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ชอบมัน...
ตรงกันข้ามเลย ถ้ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งในจักรวาลที่เขาต้องการมากที่สุด นั้นก็คือสป็อค
เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้ยิน สป็อคสนับสนุนให้พวกเขาทำอะไรที่ใกล้ชิดเพื่อแบ่งปัน
รอ...สป็อคจะไปได้ไกลแค่ไหน?
สป็อครอคำตอบ แต่เมื่อไม่มีเสียงจากกัปตัน เขาเพิ่มเติมอย่างรวดเร็ว
“การแบ่งปันความร้อนจากร่างกายในสถานการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้
เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคก่อนๆ”
รอยยิ้มเล็กน้อยโค้งบนมุมริมฝีปากของเคิร์ก ก่อนที่เขาจะรีบซ่อนยิ้มไว้
“ไม่เป็นไรสป็อค
ดูเหมือนว่าเราไม่มีทางเลือกในเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ต้องทำ” เขาหวังว่าความตื่นเต้นที่เขารู้สึกไม่ได้แฝงในคำพูดของเขา
“แน่นอนครับกัปตัน”
พวกเขาขยับตัวอย่างพร้อมเพรียง เมื่อพวกเขาเริ่มเอาเสื้อผ้าของพวกเขาออก
ก่อนที่พวกเขาขดตัวกันภายใต้ผ้าห่ม ร่างกายของพวกเขาสั่นระลอกจากความหนาวเย็น
สักครู่พวกเขาอยู่เงียบๆ ข้างๆ กันและกัน ในความคิดของตัวเอง
แต่ละคนต้องการอะไรจากคนอื่นๆ แต่แทบจะกลัวที่จะเอื้อมมือออกไปและขอร้อง
สป็อคหันหน้าไปมองเคิร์ก ความรู้สึกที่เขาไม่ควรมีและไม่มีชื่อเรียกมีอำนาจเหนือเขา
ในขณะที่เขาจ้องมองกัปตัน เขาไม่สามารถละสายตาออกไปจากเคิร์กได้เลย ขณะที่เขาค่อยๆ
คลึงเคล้าเคิร์กด้วยมือของเขาเอง ค่อยๆ ขึ้นและลง ไปมา เขารอ...เป็นเวลาที่นานแสนนาน
แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็มีเคิร์กที่เขาต้องการ เขาไม่รีบร้อน...
ความหิวกระหายในดวงตาของสป็อคกำลังทำอะไรบางอย่างกับเขา ทำให้เขาอึดอัดด้วยความต้องการ
เขาไม่ต่อต้าน ติดอยู่ในมนต์สะกดของสป็อค เขาสามารถหนีได้ถ้าเขาต้องการและเขาไม่ต้องการอย่างแน่นอน
“สป็อค
ฉัน...”
โดยไม่มีคำพูดใดๆ สป็อคเลื่อนแขนของจิมขึ้นที่ไหล่ของเขา เขาแตะแก้มของจิมเบาๆ
ครุ่นคิดช้าๆ นิ้วหัวแม่มือลูบไล้ริมฝีปากด้านล่างได้รูปของจิม
“ชู่...อย่าพูด”
ถ้าพวกเขาเริ่มพูดถึงตรรกะของเขา ส่วนที่รู้ว่าเรื่องนี้ผิด มันจะควบคุมอีกครั้งและเขาไม่อยากหยุดจริงๆ จะผิดอะไรในเมื่อรู้สึกถูกใจ?
เสียงติดอยู่ในลำคอ ครึ่งหนึ่งโห่ร้องครึ่งหนึ่งถอนหายใจเกิดขึ้นทันที่ที่สป็อคทำแบบนั้น
ไม่มีอะไรที่จะเตรียมเขาให้รับมือกับปฏิกิริยาของร่างกายได้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยสัมผัสกันมาก่อน
จับมือ แตะไหล่ แม้กระทั่งการกอด แต่นั้นนับไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาทำตอนนี้แตกต่างกัน…มันหมายถึงมากขึ้น
สป็อคก้มลงและเข้ามาใกล้ ลมหายใจอันอบอุ่นของเขารดริมฝีปากของจิม ขณะที่เขาก้มศีรษะของเขาและค่อยๆ
แนบจูบเบาๆ บนริมฝีปากของจิม
เมื่อรู้สึกถึงการจูบของสป็อค เขาหลับตาลงรับความรู้สึกที่มากขึ้น และร้อนแรงหนักขึ้นเรื่อยๆ
เสียงของการหายใจของพวกเขาดังขึ้น หลงใหลมากขึ้น ความรู้สึกของริมฝีปากของสป็อคกับเขาอ่อนนุ่มและอ่อนโยนราวกับว่าสป็อคคิดว่าเขาต้องตอบรับสป็อค
สิ่งที่สป็อคไม่รู้คือไม่มีอะไรที่เขาอยากจะทำมากกว่าการรักสป็อค แม้จะมีความเสี่ยงจากการแช่แข็งจนตายไปก็ไม่มีที่ไหนในจักรวาลที่จิมอยากจะอยู่ที่นี่ในขณะนี้
มันไม่ได้ใช้เวลานานสำหรับการจูบที่เปลี่ยนไป มันเริ่มจากอ่อนโยนเพื่อเรียกร้องในเรื่องที่มากขึ้นในวินาทีต่อมา
เกือบจะเหมือนกับว่าหลังจากรอมานานแล้วพวกเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เสียงหายใจที่รุนแรงเริ่มขึ้นเพราะความต้องการกันและกัน
“สป็อค”
ความสิ้นหวังทำให้สป็อคร้องเสียงดัง
รอยยิ้มเล็กๆ เกิดขึ้นตรงมุมริมฝีปากของสป็อค ขณะที่เขาดึงตัวออกมา
ความปรารถนาที่ไม่สามารถควบคุมได้เห็นได้อย่างชัดเจนในดวงตาของเคิร์กขอให้เขาทำสิ่งที่เขาควรเริ่มต้น
“คุณมี...?”
“ใช่”
เคิร์กกระซิบขณะที่เขากลิ้งออกไปหาสารหล่อลื่นขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ด้านหลังเขา
สป็อคไม่ได้ถามคำถามใดๆ ขณะที่เขาเอาสารหล่อลื่นออกจากมือของเคิร์ก
แม้ว่าเขาอยากจะรู้ถึงเหตุผลว่าทำไมถึงมีของพวกนี้อยู่ในตอนแรก แต่เขาไม่ได้ถามออกไปขณะที่เขาเรียกร้องให้เคิร์กหมุนตัวไป
โดยไม่ลังเลเคิร์กทำตามทันที มือที่แข็งแกร่งยกสะโพกของเขาขึ้นไล้ตามกระดูกสันหลังของเขา
ขณะที่นิ้วหล่อลื่นของสป็อคเตรียมตัวให้อย่างอ่อนโยน เคิร์กไม่สามารถต่อสู้กับความรู้สึกที่กระหน่ำร่างกายของเขาได้
คลื่นของความสุขล้มเหนือเขาและเขากรีดร้องออกมาด้วยความสุข เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเสียเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ที่ไม่รู้จะได้พบกับความสนุกแบบง่ายๆ ที่อยู่ใต้มือของสป็อค
“จิม?”
ชื่อของเขาออกจากริมฝีปากของสป็อค
แต่เคิร์กไม่จำเป็นต้องได้ยินอะไรอื่นอีก เขารู้อยู่แล้วว่าวัลแคนที่อยู่เบื้องหลังเขาต้องการอะไร
“เดี๋ยวนี้สป็อค…ได้โปรด”
เขาไม่จำเป็นต้องถามอะไรต่อ สป็อคเริ่มที่จะผลักดันเบาๆ โดยนิ้วช้าๆ
เคิร์กเกือบคลั่งโดยสมบูรณ์จนกว่าเขาจะได้รับการเต็มที่ภายในของเขา ดวงตาของสป็อคหรี่ลงด้วยความรู้สึกที่ช่องทางของเคิร์กรัดนิ้วของเขาเอาไว้
ช่วงเวลาสั้นๆ เขาปล่อยให้ตัวเองได้รับความกระสันก่อนที่เขาจะหยุดและรอคอยเคิร์ก
“สป็อค” เคิร์กไม่สนใจว่าเขาเสียงฟังดูราวกับหมดหวังหรือกระหายขนาดไหน
ทั้งหมดที่เขาต้องการ... จำเป็นสำหรับสป็อคเพื่อเริ่มต้นการขยับอีกครั้ง
เสียงระทึกแห่งความสุขแล่นผ่านร่างของเขาด้วยเสียงที่เรียกชื่อของเขา
คำวิงวอนที่หลุดออกมาจากริมฝีปากของเคิร์ก สป็อครู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน
ขณะที่เขาแทรกนิ้วตัวเองเพิ่มเข้าไปในร่างการของกัปตันที่สั่นสะท้าน
การตอดรัดตลอดความยาวนิ้วของเขา มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรง “มันคืออะไร จิม?”
เคิร์กกัดฟันกลั่นเสียงคราง เขารู้ว่าสป็อคไม่สามารถเห็นเขาได้อย่างชัดเจน
แต่เขามั่นใจว่าสป็อคจะรับรู้สภาพของเขาจากเสียงของเขาเอง “ขยับสิ”
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เริ่มค่อยๆ ขยับ สป็อคใช้เวลาไม่นานที่จะทำให้เคิร์กเกือบแตะถึงจุดสิ้นหวังด้วยความปรารถนา
เสียงครางหลุดออกมาจากลำคอของเคิร์ก ในขณะที่เขาผลักก้นของตนเองรับกับการขยับของสป็อค
บังคับให้นิ้วของสป็อคเข้าลึกไปในร่างกายของเขา ราวกับมีดวงไฟเต้นในดวงตาของเขา มันเกือบจะมากกว่าที่เขาจะทำได้
มือหยาบจับสะโพกของเขาผลักดันเขาลง จับเขาไว้แน่น “โอ้...ไม่ จิม...นั่นไม่ใช่หน้าที่คุณ”
เศษเล็กเศษน้อยของสิ่งที่เขาไม่สามารถหาเรียกชื่อมันได้ระเบิดในตัวเขา
ทำให้เขาแทบจะไม่มีเสียงอะไร ขณะที่นิ้วของสป็อคขุดลงสะโพกของเขา แต่เขาไม่สนใจ ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือ
สป็อคที่จะผลักดันเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก
เขาไม่ได้มีอะไรที่เขาพูดต่อคำดังกล่าวจนเสียงหัวเราะของสป็อคสั่นสะเทือนไปทั่วร่างของเขา
“คุณแน่ใจใช่ไหมว่านี่เป็นสิ่งที่คุณต้องการจิม?”
“ใช่!”
ทันทีที่จบคำพูดลงจามมาด้วยการถอดนิ้วออก ขณะที่สป็อคเริ่มค่อยๆ เลื่อนส่วนปลายแก่นกลางลำตัวไปที่ช่องทางของเขา
ก่อนที่จะกระแทกเข้าไปภายใน พอที่จะฝังลึกเข้าไปในตัวเขา
เคิร์กไม่รู้ว่าจะให้ความสำคัญกับอะไร ความรู้สึกที่มากเกิน ความรู้สึกของสป็อคที่อยู่ลึกเข้าไปในตัวเขา
และแก่นกายตัวเองกำลังถูกับผ้าห่มเกือบจะทำให้เขาสูญเสียการควบคุมตนเองลง “มากกว่านี้” คำที่ถูกฉีกจากลำคอของเขา
เสียงนั้นเกือบเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ดังก้องลึกลงไปในลำคอของเขา เป็นอีกครั้งที่สป็อคเลื่อนหลุดจากเขา
สป็อคหยุดชั่วคราวและลูบสะโพกของจิมเบาๆ มีรอยยิ้มเล็กๆ บนริมฝีปากของเขา
ในขณะที่เขาดูช่องทางที่สั่นระริกของเคิร์ก และเริ่มทำตามความต้องการของกัปตันโดยแก่นกายของเขาที่ฝังเข้าไปในตัวมนุษย์ใต้ร่างเขาแรงๆ
จนจิมหลุดเสียงครวญครางออกมา
แต่สป็อคไม่ได้กอดสะโพกไว้แน่น และหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวต่อ จิมไม่สามารถแม้แต่ขยับแก่นกายของตนเองได้
สิ้นท่าและคร่ำครวญ “สป็อค”
เขาแทบไม่ได้ผลักดันภายใน “คุณต้องการอะไรจิม?”
“นาย...ฉันต้องการนาย”
ตาของจิมเหลือบมองเขา ขณะที่สป็อคขยับตัวเข้าไปข้างในร่างกายที่เรียกร้องของจิม
“คุณมีผมเสมอ
แต่คุณเสียเวลานานมากแล้ว” เขาจวงลึกลงไปภายในของจิม “คุณยังต้องการอะไรอีก?”
“ทั้งหมดของนาย!
ฉันต้องการให้นาย fuck ฉันมากกว่านี้ เร็วขึ้นอีก
ขอร้อง…ได้โปรดเถอะ...!”
ลมหายใจของสป็อคติดอยู่ในลำคอ เขาไม่คิดว่าเขาจะได้ยินจิมพูดคำเหล่านั้น
ยอมรับว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่ควบคุม เสียงของเคิร์กที่อ้อนวอนขอให้ปลดปล่อยตัวเองคือสิ่งที่เขาอยากฟัง...เป็นความต้องการลึกๆ
ในจิตใจ เพียงแค่คิดถึงคำวิงวอนของเคิร์กก็เพียงพอแล้วที่จะผลักดันให้เขาขึ้น แต่ที่จริงแล้วสิ่งได้ยินดีกว่าที่เขาเคยคิดไว้
ด้วยเสียงเคิร์กที่ขอร้อง สป็อคพุ่งเข้าไปในช่องทางของเคิร์กบังคับให้ตนเองลึกและลึกเข้าไปภายในร่างกายที่สั่นสะเทือนของเคิร์ก
เคิร์กกัดริมฝีปากของเขาเพื่อไม่ให้ตะโกน นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ สิ่งที่เขาต้องการ
ความรู้สึกที่สป็อคบดเบียนเข้ามาโดนจุดกระสันของเขา ร่างกายของเขาสั่นสะเทือนกับแรงกระแทกแต่ละครั้ง
เขาอยู่ใกล้กับสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด
สป็อคเข้าไปในตัวเคิร์ก หนักขึ้น เร็วขึ้นและลึกซึ้ง ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าเคิร์กทนไม่ไหวปลดปล่อยออกมา
เสียงกรีดร้องออกมาเป็นชื่อสป็อค
สป็อคจับสะโพกให้แน่นขึ้น ผลักดันเร็วขึ้นและเร็วขึ้นจนชื่อเคิร์กหลุดจากริมฝีปากของเขา
แล้วปล่อยน้ำรักของเขาเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนของเคิร์กจนล้นออกมาด้านนอก
เขาแช่ค้างเอาไว้จนแน่ใจว่าปล่อยเข้าไปในตัวเคิร์กจนหมดแล้วจึงถอดแก่นกายออก เขาทรุดลงบนตัวเคิร์กก่อนที่จะรีบคว่ำไปที่ด้านข้างและพาเคิร์กเข้ามาในอ้อมกอดของเขา
ท่ามกลางความเงียบได้ยินเสียงหอบหายใจของมนุษย์อย่างชัดเจน
เคิร์กยันตัวขึ้นสบตาสป็อค “สป็อค ฉัน...”
ก่อนที่เขาจะจบการพูดเสียงเครื่องสื่อสารดังขัดจังหวะ “Enterprise เรียกกัปตันเคิร์ก”
“นี่เคิร์ก”
“กัปตัน พายุได้สงบลงในขณะนี้
มีช่วงสั้นๆ เพียงพอที่จะนำคุณและคุณสป็อคกลับสู่ Enterprise ก่อนที่พายุจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”
“เข้าใจแล้ว”
โดยไม่ต้องคำพูดอื่นเขาปิดการสื่อสาร ในขณะที่เขาหันไปจ้องมองที่สป็อค “แค่... ฉันหมายถึงสิ่งที่เรา...” เขากระแอมก่อนที่จะพยายามอีกครั้ง “มันเป็น...” เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เจมส์ ที เคิร์ก กัปตันแห่งยาน Enterprise
ไม่สามารถหาคำพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเพียงช่วงเวลาที่ผ่านมาได้
แต่เขาไม่จำเป็นต้องกังวล สป็อคเข้าใจว่าเขากำลังพยายามจะพูดอะไร เอนกายเหนือตัวเขาและไล้มือข้างแก้มของเคิร์กเบาๆ
“เมื่อผมกลับไปที่
Enterprise และผมจะทำสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราอีกครั้ง"
รู้สึกถึงความโล่งอกทันทีที่ได้ยินคำพูดของสป็อค เขากังวลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเป็นเพียงเพราะสถานการณ์พาไป ขณะที่พวกเขาเริ่มแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
เขามองสป็อคและยิ้มที่เต็มไปด้วยคำสัญญาที่ชั่วร้ายในขณะที่เขากระซิบเบาๆ “ฉันก็ด้วย”
FIN.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น