(Fic Star Trek) Pon Farr – Spock x Kirk – NC17

Original story : Star trek

Pairing            : Spock / Jim Kirk

Text                : yeoldfluffnsmut.wordpress.com /2011/12/12/pon-farr-spock-x-kirk-nc17/

Interpreter      : KZGlowyinG

Warning         : Yaoi / BL

ขอออกตัวก่อนว่าไม่เก่งด้านภาษาเลย แต่เป็นการสนองความต้องการตัวเองล้วนๆ จะไม่มีตรงกับต้นฉบับอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากภาษาที่แปลออกมาอาจจะแข็งเกินไป เลยต้องมีการเกลาภาษา และอาจจะมีเสริมด้วย เนื่องจากแปลมาแล้วไม่รู้สึกว่าสอดคล้อง หรืออาจจะเป็นเพราะเป็นประโยควลี จึงทำให้ไม่เข้าใจได้ เลยปรับให้ถูกจริตผู้อ่าน (ผู้แปล) เองคะ

                                 **********************************

กลิ่นที่เบาบาง แต่อ่อนโยนของ Favinit ดอกไม้พื้นเมืองที่บ้านเกิดของเขาซึ่งถูกทำลายไปแล้ว ดอกไม้ที่ไม่สามารถเติบโตได้อีกครั้ง สป็อคขมวดคิ้ว การขยายตัวของลมหายใจเข้า การบีบอัดของลมหายใจออก ทั้งสองอย่างมีแบบแผนและจุดสิ้นสุด ลดอัตราการเต้นของหัวใจให้สมดุลและสมบูรณ์แบบกับส่วนที่เหลือของเขา  ในขณะเขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกเวลางานบนยานเอ็นเตอร์ไพรส์ การทำสมาธิ มันดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในไม่กี่วิธีที่สามารถขจัดความวุ่นวายภายในจิตของเขาได้  สป็อคขมวดคิ้วอีกครั้ง

ฟอนฟาร์ มันเป็นตรรกะตามมาตรฐานของวิวัฒนาการ วิธีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด เพื่อการดำรงอยู่ของสายพันธุ์ที่ต้องรักษาไว้ ไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง แต่การที่จะเกิดขึ้นในขณะปฏิบัติภารกิจกลางอวกาศ อาการในส่วนที่ลึกของจิตที่สมบูรณ์และมันไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง ไม่ต้องพูดถึงการผ่อนคลายอาการ ดังนั้นสป็อคออกจากการทำสมาธิตนเอง แต่นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาเติบโตเต็มวัยแล้ว มันเห็นได้ชัดว่าการทำสมาธิที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ ไม่เพียงพอ ในความเป็นจริง ถ้าเขาไม่พบทางเลือกที่สำคัญเร็วๆ นี้ มันจะเป็นความตายที่แท้จริงของเขา สป็อคขมวดคิ้วอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทำอะไรหลายๆ อย่างเร็วๆ นี้

สป็อค!” เสียงเรียกและการเคาะประตูที่หน้าห้องของเขา สป็อคลุกขึ้นยืนด้วยอาการถอนหายใจ และการกลับคืนสู่ปกติอย่างมีสติเพื่อการแสดงออกเหมาะสม ซ่อนเร้นความรู้สึกของวัลแคนที่พลุ่งพล่านเขาออกคำสั่งคอมพิวเตอร์ให้เปิดประตู

มีอะไรให้ผมช่วยรึป่าวครับ กัปตัน?”เขาพูดด้วยโทนเสียงที่อดกลั้น เคิร์กทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ชายหนุ่มผมทอง ผู้ที่มีดวงตาสีฟ้าครามราวกับท้องฟ้ายามหน้าร้อน วางมือลงบนขอบประตูเบา ๆ ราวกับว่ากลัวสป็อคจะบังคับให้ประตูปิดสแลมบนใบหน้าของเขา สป็อคพยายามที่จะไม่รู้สึกถึงความยินดีในความคิด และเห็นถึงความพยายามนั้นจึงเปิดประตูมากขึ้น

และนั้นทำให้เคิร์กเกือบจะล้มลงไปเพราะประตูที่เปิดขึ้นฉับพลัน เขาแก้เก้อด้วยการเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงของเขา ส่วนมืออีกข้างจัดปกเสื้อ นายเป็นอะไรรึป่าว? ฉันรู้สึกว่านาย...ดูไม่ค่อยดีเลย

สป็อคจ้องมองกัปตัน เอียงคอเล็กน้อย ทำตัวให้เป็นปกติ ราวกับว่าเขาไม่ได้มีความสับสนอะไร ผมสบายดีครับเขาพูดเท็จ และนั้นทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจเท่าไรนัก "เผ่าพันธุ์ของผมเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่ไร้ที่ติ ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมสบายดี

นั้นสินะ” เคิร์กเห็นพิรุธเล็กๆ ที่สป็อคพยายามซ่อนมันไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย แต่เขาจะไม่พูดถึง "งั้นนายช่วยอธิบายถึงเหตุผลที่นายลุกออกจากสะพานเรือเช้านี้ด้วยความโกรธได้ไหม?"

"เหตุผลของการออกจากสะพานเรือของผม" สป็อคเริ่มพูด และตระหนักถึงความรำคาญที่ซึมเข้าไปในเสียง เขาพยายามอีกครั้ง "ผมไม่มีเจตนาที่จะโกรธครับกัปตัน ตอนนี้ถ้าคุณจะยกโทษให้ผม” เขาต้องจบเรื่องนี้แล้วกลับเข้าห้อง ขณะที่เขาหันหลังกลับและก่อนที่ประตูจะปิดลง เคิร์กกลับคว้าแขนของเขาไว้

"นายรอสักครู่ได้ไหม” เคิร์กรีบพูดก่อนที่สป็อคจะเข้าห้องไป

ความเห็นอกเห็นใจส่งผ่านพันธนาการใจ นั่นคือสิ่งที่ฟอนฟาร์ต้องการ ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง พันธนาการใจที่ตัวเขาคิดว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นจิตส่วนลึกที่ต้องการแบบนั้น มันผลักดันภายใต้การสัมผัสนั้น เป็นความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ทำให้สป็อครู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถต่อต้านได้เลย สป็อคจับต้นคอของเคิร์ก และดึงเข้ามา มอบจูบร้อนแรงที่ไม่คาดคิด สป็อคไล้ชิมรสชาติภายในนั้น เกี่ยวกระหวัดลิ้นที่อ่อนนุ่มให้จนมุม จูบซับน้ำใสที่มุมปาก คาดว่า มันกระทันหันจนเคิร์กไม่สามารถต่อต้านในครั้งแรก ดวงตาเบิกกว้างขึ้นขณะที่เขาถอดจูบออก  เมื่อสติของเขากลับมาเล็กน้อย มากพอที่จะทำให้เขาเผลอเดินถอยออกมา

"ผม...ขอโทษจริงๆ" สป็อคพูด ไม่มีความกล้าพอที่จะมองความรู้สึกในดวงตาของกัปตัน เขาไม่ปรารถนาที่จะเห็นความรู้สึกในแง่ลบที่จะมีต่อตัวเขา ไม่อยากจะเห็นความโกรธและรังเกียจที่จะปรากฏบนใบหน้านั้น "ผม... " เขาหันไปรอบๆ ทุกสิ่งที่เขาต้องการเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่าเขาต้องจับคู่กับกัปตัน "ผมพร้อมจะรับผิดกับการกระทำของตนเอง บอกผมถ้าคุณต้องการอะไร อย่าลังเลที่จะพูดออกมา” และด้วยเหตุนี้ สป็อคเดินออกมาจากจุดนั้นทันที

***********************************

ไม่ใช่ครั้งแรกที่สป็อคคิดจะปรึกษาใครสักครู่... ในสถานการณ์เช่นนี้กับหัวหน้าแพทย์อาวุโส บางทีอาจจะมียาที่ทำให้เขามีเวลามากขึ้นในการพิจารณาแผนการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ  แต่เช่นเดียวกับทุกครั้งนั้นก่อนที่เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถกระทำได้ เขารู้ว่าเขาต้องการอะไร เขาได้ผูกคู่พันธะด้วยพันธนาการใจไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาไม่ได้วางแผนไว้คือระยะห่างที่สตาร์ลีฟ ในระหว่างที่เขากำลังรับมือกับ "การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว" เนื่องจากมนุษย์บางคนมักจะพูดถึงเรื่องนี้ หากปราศจากดาวเคราะห์ และมีอาณานิคมอยู่ไกลเกินไปที่จะไปสู่ภารกิจกลาง สป็อคที่สูญเสียความสมดุลรู้สึกอัปยศอดสู การตัดสินใจสำคัญมากกว่าที่เขาจะคิดง่ายๆ ดูเหมือนว่าเคิร์กจะมีคุณวุฒิเพื่อตอบสนองความต้องการทางกายภาพของเขา แต่เพื่อแก้ไขสิ่งดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงเรื่องที่ไม่ได้ยอมรับ แต่อุกอาจ เจมส์ ที. เคิร์ก อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับสป็อคแม้ว่าจะหมายถึงความตายของเขา

ซึ่งไม่เป็นความจริง และเขารู้เรื่องนี้ เคิร์กเป็นคนเจ้าชู้ มักมากในกามารมณ์ และมีชีวิตชีวา แต่จิตใจดี มีเมตตาและเสียสละ ถ้ามันหมายถึงการช่วยชีวิตของเขา ชีวิตของเพื่อนของเขา เป็นความคิดที่ยังคงดูเหมือนอุกอาจ เคิร์กอาจจะตอบรับ สป็อคเพียงแค่หวังว่ามันจะไม่ต้อง

สป็อค!” เสียงของเคิร์กดังมาทางด้านหลัง ตามมาด้วยตัวเขา คนที่วิ่งตามเขา ไล่ตามเขา สป็อคลังเลว่าจะหยุดเดินดีหรือเดินหนีให้เร็วขึ้นสป็อค! รอก่อน!” สป็อคพยายามทำตัวให้ปกติเมื่อกัปตันเดินเข้ามาใกล้ เคิร์กพยายามหายใจก่อนที่จะพูด "เมื่อกี้...?" เขากล่าวในที่สุด สป็อคมั่นใจว่าแก้มต้องเขียวแน่ๆ ด้วยความร้อนเผ่าไล้ใบหน้า แต่เขาไม่ได้แสดงให้เห็น ความอับอายบนใบหน้าของเขา

อีกครั้งครับกัปตัน การกล่าวขอโทษต่อการกระทำเมื่อเวลา 6 นาที 24 วินาที ถึงความจริงใจของผม

"ใช่...ใช่...สป็อค นายเสียใจที่ได้จูบฉัน” เคิร์กโบกมือไปมา "แต่ทำไมนายถึงจูบฉันในตอนแรก?"

ในทางเดินที่เป็นที่สาธาณะไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องนี้ สป็อคกำลังคิดจะเดินนำเคิร์กไปยังดาดฟ้าดูดาวที่ว่างเปล่าไม่มีคน แต่เมื่อเคิร์กจะแตะตัวเขา สป็อคหยุด เอามือทั้งสองไพล่ไว้ที่หลัง ถอยระยะห่างออกมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันการแตะตัวจากเคิร์ก "ผมขอให้คุณละเว้นจากการสัมผัสผม จนกว่าผมจะสามารถ... อธิบายได้อย่างครบถ้วน" สป็อคบอกเขาก่อนที่จะเดินต่อไป เคิร์กไม่ลังเลที่จะเดินตาม ดาดฟ้าดูดาวนี้ยังไม่ได้รับการตั้งโปรแกรม ผนังสีขาวและว่างเปล่า ประตูปิดลงอยู่ข้างหลังพวกเขา และล็อคไว้ สป็อคเสียเวลาไม่นาน

"คุณเคยรู้เกี่ยวกับพิธีฟอนฟาร์ของวัลแคนรึป่าวครับ?" เคิร์กเลิกคิ้วขึ้นและส่ายหน้า พิงหลังของเขากับผนัง แล้วกอดอกไว้ สป็อคพูดต่อ "พิธีนี้เกิดขึ้นทุกๆ 7 ปีครั้ง ผมถึงช่วงเวลานั้นแล้ว"

เคิร์กพยักหน้าช้าๆ "และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับนาย? นี้ ...คือฟอนฟาร์?”  สป็อคพยักหน้าทันที อย่างเคร่งครัดโอเค แล้วมันเป็นยังไง? เราจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร? “อีกครั้ง สป็อคต้องมองไปข้างหน้า อารมณ์ของเขายังไม่คงที่ เลือดของเขาร้อนขึ้นทันที่คิดถึงสิ่งที่จะใช้เวลาในการ "แก้ไขเขา"

“ฟอนฟาร์เป็นพิธีกรรมการสืบพันธุ์ของเราที่ค่อนข้างแตกต่างสป็อคอธิบาย เคิร์กรับฟังเงียบๆ "มันต้องมีสมาชิกคนอื่นในเผ่าพันธุ์ของผม หรือใครบางคนที่ผมสามารถจับคู่พันธะ และพันธนาการใจได้"  สป็อคมองข้ามไหล่กัปตันของเขา มองเห็นความสับสน ตามมาด้วยอาการเกร็งที่ใบหน้า

"ฉัน...สมมตินะ สมมติว่าฉันเป็นคนเดียวในยานที่เหมาะสมกับ...อืม...เรียกว่าพันธนาการใจใช่ไหม" เคิร์กเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา สิ่งที่ได้รับรู้จากสป็อค ก่อให้เกิดความอายแปลกๆ เกินกว่าที่จะยอมรับออกมาดังๆ ยังดีที่เขายังสามารถรักษาความสงบในน้ำเสียงได้

"ยืนยันครับ" สป็อคตอบ

และที่จูบก่อนหน้านี้...” เคิร์กพูดต่อ "นั่นเป็นเพราะฉันสัมผัสนาย"

"ถูกต้องครับ" สป็อคมองออกไปอีกครั้ง สงสัยว่ากัปตันจะใช้เวลานานเพียงใดที่จะปฏิเสธเขา หรือยอมรับเขาอย่างไม่เต็มใจ แต่เคิร์กพูดต่อไปอีกคำถามหนึ่ง

"และถ้าฉันสัมผัสนายอีกครั้ง?" กัปตันกระซิบเบาๆ แต่เสียงนั้นกลับดังชัดราวกับเอ่ยชิดติดใบหูของเขา และไม่ต้องรอคำตอบ เคิร์กใช้มือแตะลงที่แขนของสป็อค นั่นทำให้สป็อครู้สึกถึงแรงกระตุ้นและรุนแรง ด้วยความปรารถนาที่ไม่เคยมีมาก่อน มันมากจนแทบจะทำให้เขารู้สึกเหมือนจมน้ำ สป็อคแทบจะไม่สามารถแยกความสับสนกับกัปตันของเขา ก่อนที่จะดึงเคิร์กเข้ามาจูบอีกครั้ง ในขณะที่เขายุ่งเหยิงและสิ้นหวังเป็นครั้งแรก สป็อคสามารถลิ้มรสพันธนาการใจในตัวเขา รู้สึกตนเองในตัวของเคิร์ก แต่มันยังไม่เพียงพอ เขาต้องการมากขึ้น เขาต้องการใกล้ชิดลึกซึ้ง... ในที่สุดเขาก็ยอมจำนนต่อความรู้สึกที่หิวกระหายของฟอนฟาร์ และทั้งหมดที่เขารู้สึก ทั้งหมดที่เขาเห็น  ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือเคิร์กอยู่ที่นั่น ที่พันธนาการใจระหว่างเรา เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น

เขาดันตัวเคิร์กชิดผนังสีขาว สป็อคไล่จูบลงกรามและคอของเคิร์ก ขบกัดแผ่วเบา ขณะที่เขาดึงเสื้อกัปตันของเคิร์กออก มือของสป็อคเคลื่อนตัวไปตามหน้าท้อง แขน และหน้าอกของเคิร์ก ปลายนิ้วของเขาสัมผัสยอดอกของเคิร์ก ซึ่งมันทำให้คู่พันธะของเขาร้องคราง เคิร์กชอบเป็นคนลงมือกระทำก่อนเสมอ มือของเคิร์กไถลเข้าไปภายใต้เสื้อสป็อคเช่นกัน ความรู้สึกของการสัมผัสที่เปลือยเปล่าเช่นยอดอกของเขา สป็อคคว้ามือของเคิร์ก มองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์แม้แต่กับนีโยต้า

การตอบสนองของคุณไม่จำเป็น” เขาพูดเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ แต่เคิร์กเพียงหัวเราะเบาๆ ดึงมือออกเพื่อปลดสายเข็มขัดของสป็อค

"ไม่ใช่บนโลกของฉัน"

สป็อคจ้องมองเขาอย่างตะลึง ก่อนพยักหน้าตกลง บางครั้งแนวความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ทำให้เขาสับสน แต่ ณ ตอนนี้เขากลับไม่ใส่ใจมัน สป็อคถอดเสื้อ และกางเกงของเขาออก จูบเคิร์กอย่างลึกซึ้ง ลิ้นไล่เล็มไปตามปากของเคิร์ก สิ่งนั้นทำให้เคิร์กสั่น สป็อคอยากให้เคิร์กตัวสั่นอยู่ใต้ร่างเขา แทบจะไม่มีเสียงปลุกเร้า การร้องขอ แต่มันไม่ใช่สถานที่ของเขาที่ต้องการสิ่งนั้น ไม่ใช่ เมื่อเคิร์กกำลังเสียสละความปรารถนาของตัวเอง และอยู่ที่นี่ในตอนนี้ มันจะไม่เป็นธรรมที่จะเรียกร้องมากกว่านี้ หรือเพียงกัปตันออกจากที่นี่ด้วยความไม่พอใจ  ดังนั้นโดยไม่มีการเตือน สป็อคถอดกางเกงของเคิร์กและเลื่อนมือที่ผ่านมารอบเอว สัมผัสนิ้วมือที่ละเอียดอ่อนและอุ่นร้อนกว่าปกติกำรอบแก่นกายของเคิร์ก

เคิร์กแอ่นตัวรับสัมผัสของเขา ดวงตารี่ลงและกัดฟัน ขณะที่สป็อคปลุกเร้าอย่างฉับพลัน สิ่งนั้นแข็งเกือบสมบูรณ์ภายใต้การขยับจังหวะมือของสป็อค เคิร์กโยกสะโพกของเขาเข้าไปในมือของสป็อค มันเป็นภาพที่ดูเย้ายั่วจนสป็อคเกือบลืมหายใจ แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เพียงเพราะพันธนาการใจที่ผูกพันพวกเขาเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าเคิร์กมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เช่นเดียวกับความหมดหวัง ความกระตือรือร้น และความปรารถนาที่จะปล่อยออกมา

ดังนั้นสป็อคไม่เสียเวลา ดึงเคิร์กนอนลงไปที่พื้น และถอดกางเกงในของเขาออก ใช้เวลาสักครู่หนึ่ง เพื่อใส่นิ้วเข้าไปในช่องทางของเคิร์กหนึ่งนิ้ว แล้วเพิ่มเป็นสองและสาม ขยายช่องทางนั่นออก เตรียมตัวให้พร้อมไม่ว่าเคิร์กจะต้องการหรือไม่  นิ้วมือสัมผัสจุดที่ไวสัมผัสทำให้เคิร์กสะดุ้ง แก่นกายสั่นระริกอยู่ในมือของสป็อค นั่นคือทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้ สป็อคพยายามมากที่จะทำให้มันเจ็บปวดน้อยที่สุด ความเร่าร้อนไล่ผ่านแก่นกายของเขา ใช้น้ำลายหล่อลื่นเพื่อที่จะเข้าไปในตัวของกัปตัน กระตุ้นความเร้าอารมณ์ของตัวเองให้ง่ายขึ้น สป็อคชิดตัวกับเคิร์ก เอามือจับขาของเคิร์กที่จะรั้งตัวเอง ในขณะที่เขาฝังความยาวของเขาเข้าไปในช่องทางนั้น ซึ่งมันร้อน คับแน่น และตอดรัดเขา

สิ่งที่แทบจะทำให้เขาหยุดหายไปในช่วงเวลานั้น สป็อคหอบหายใจหนัก หัวใจเต้นเร็วพอที่จะได้ยิน ความรัดแน่นของเคิร์ก ความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยของนิ้วมือเคิร์กที่จิกลงไปที่แขนสป็อค มันอาจจะเป็นการระบายความเจ็บปวดจากเขา กับสิ่งที่กำลังทำอยู่นี่ เสียงของเคิร์กกระซิบคําสบถ ขณะที่เคิร์กรอเวลาในการปรับตัวกับสิ่งที่อยู่ภายในกายเขา ดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาของเคิร์กบอกเขาเช่นนั้น ใบหน้าแนบไปกับพื้น ริมฝีปากของเขาจูบเบาๆ ที่แก้มเคิร์ก เงาของเหงื่อตามใบหน้าของเคิร์ก มันทำให้หัวใจพูดไม่ออกสป็อค ความรู้สึกน่าสนใจไม่มีข้อสงสัยรวมด้วยความต้องการของฟอนฟาร์ แต่ยังคงมันทำให้สป็อคเอื้อมมือไปสัมผัสที่ใบหน้าของเคิร์ก ใช้นิ้วมือระมัดระวังตามแก้มของเคิร์ก เคิร์กมองเขาด้วยความสับสน สป็อคค่อยประคองเคิร์กนั่งบนตัก กอดเขา จูบเขา ริมฝีปากกับริมฝีปากให้ความรู้สึกแผ่วเบาเหมือนผีเสื้อโบยบิน สป็อคสูดดมกลิ่นของเขา

ขยับสิเคิร์กสั่ง แต่เสียงนั้นกลับสั่นพร่าอย่างน่าอาย สป็อคปฏิบัติตามทันที โยกสะโพกของเขาอย่างช้าๆ ในตอนแรก ก่อนที่จะวางเคิร์กกลับนอนไปที่พื้น และกระแทกเข้าไปในตัวมากขึ้นอย่างรุนแรง เคิร์กตัวสั่นคลอไปตามแรงของวัลแคนหนุ่ม ครวญครางราวกับผู้หญิง พยายามโยกตัวรับเข้ากับจังหวะ สป็อคมั่นใจว่าเคิร์กได้รับบาดเจ็บ แต่เขาดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดการกระทำของเขาเพื่อถามได้เลยเมื่อทุกอย่าง ทุกความต้องการที่ชัดเจนมากขึ้น สัญญาณที่พร้อมจะปลดปล่อยพวกเขาทั้งสองอย่างต้องการเขาลิ้มรสมัน ได้ยิน ได้เห็น แต่เคิร์กก็ยังไม่สามารถปลดปล่อยออกมา ดังนั้นสป็อคจึงเอามือไปสัมผัสแก่นกายของเคิร์กอีกครั้ง ขยับตามจังหวะให้ตรงกับแรงกระแทกของเขาที่ลงในช่องทางของเคิร์ก นั่นคือทั้งหมดที่ดูเหมือนว่าเคิร์กแอ่นตัวรับแรงความต้องการทั้งสองทาง ความกระชับของร่างกายของเคิร์กที่ตอดรัดความต้องการของสป็อค ทำให้เขาต้องถูกลืมไปภายในไม่กี่วินาทีต่อมา สป็อคได้ยินเสียงคำรามในลำคอของเขาเอง และเสียงครางของเคิร์ก ในขณะที่เขายังคงขยับอยู่ในตัวที่สั่นสะท้านของกัปตัน สำหรับช่วงเวลาที่พวกเขาเพียงแค่อยู่ที่นั่นปล่อยให้ระลอกสะท้อนระหว่างพันธนากรใจของพวกเขาส่งกระแสความสุขที่ลึกล้ำ แต่ในไม่ช้าความสุขที่อาบไปทั่วร่างเริ่มจะจางหายไป

เป็นความพ่ายแพ้ต่อฟอนฟาร์อย่างแท้จริง เหลือเพียงการถอดแก่นกายของเขาออก ด้วยไม่ต้องการที่จะทำร้ายเคิร์กต่อไป ไม่ต้องการที่จะบังคับให้เคิร์กรองรับปรารถนาซึ่งกันและกันนี้ ถึงแม้จะยังไม่หมดช่วงฟอนฟาร์ แต่สามารถผ่อนปรนความต้องการให้บางเบามากพอที่เขาพอจะควบคุมได้ สป็อคปล่อยให้หายใจออกเป็นปกติ และดึงออกมาอย่างระมัดระวัง เคิร์กทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ก็ไม่มาก ยังคงหอบเล็กน้อย แม้ในขณะที่เขาเอื้อมมือหยิบเสื้อกล้ามชองเขา เพื่อทำความสะอาดหลักฐานของความสัมพันธ์ของพวกเขา ไม่กี่นาทีถัดไป ได้ใช้เวลาในความเงียบซึ่งกันและกัน ทำความสะอาดดาดฟ้า และปิดสัญญาณของสิ่งที่เกิดขึ้น น่าแปลกใจมากพอ เคิร์กมองเขา ขณะที่ใส่เสื้อผ้า ราวกับว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งๆ ที่เพิ่งได้มีเซ็กซ์ทางด้านหลัง โดยเจ้าหน้าที่วัลแคนซึ่งเป็นครั้งแรกของเขา แต่สป็อครู้ดีกัปตันคนเก่งของเขาฝืนตัวเองอีกแล้ว บางทีอาจเป็นสิ่งที่สป็อคได้ยินคือ "การฝึกอบรมที่สำคัญ" ในช่วงหลายปีที่เขาอยู่ในสถาบันการศึกษา การฝึกซ้อมที่ไม่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าของเขาในสตาร์ลีฟ

สป็อคหายใจเข้าในขณะที่กัปตันแก้แขนเสื้อที่พันกัน "มันจะไม่ดีที่จะอนุญาตให้ผมทำงานบนยานต่อ ในขณะที่ผมส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเรา" เขาเริ่ม "และผมรู้สึกขอบคุณสำหรับความเสียสละของคุณ ผมรู้สึกว่าสิ่งนี้ ... "

"ฟอนฟาร์เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวทุกๆ 7 ปีใช่มั้ย?" เคิร์กขัดคำพูดเขา ตายังคงมองอยู่ที่แขนเสื้อของเขา ขยับนิ้วมือแก้แขนเสื้อไปมาราวกับว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องพิกัดการบิน ไม่ใช่เรื่องทางเพศของเผ่าพันธุ์ของเขา สป็อคพยักหน้า

"ยืนยันครับ กัปตัน"

         “อืม...เคิร์กรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ดูแขนเสื้ออีกครั้งก่อนที่จะปล่อยมันไว้อย่างนั้น โบกมือปฏิเสธสป็อคที่จะเข้ามาพยุงเขา ลุกขึ้นเดินทั้งๆ ที่ขายังอ่อนแรงและสั่นพร้อมที่ทรุดได้ทุกเมื่อ การเสียดสีในขณะเดินที่ทำให้เจ็บแปลบๆ ที่ก้น แต่ก็นั่นแหละ ใครจะไปยอมรับว่าของสป็อคมันจะ... จนอดคิดไม่ได้ว่าก้นของเขาต้องฉีกแน่ๆ สั่งเปิดประตูดาดฟ้า เขาหันไปมองสป็อคอีกครั้ง อดที่จะคิดถึงเซ็กซ์ระหว่างเขากับสป็อคไม่ได้ แม้จะเจ็บแต่โคตรรู้สึกดีเลย และไม่เคยคิดว่าวัลแคนที่แทบจะไร้ความรู้สึก จะเร่าร้อนและเซ็กซี่ขนาดนั้น น่าเสียดายจริงๆ…” และเขาก็ไม่พูดอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เคิร์กเลียริมฝีปากอย่างที่ชอบทำ ฉีกยิ้มที่คิดว่ายั่วเย้าที่สุด และทิ้งสป็อคยืนนิ่งอยู่ที่นั่น ในสิ่งที่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพียงอาการช็อตของวัลแคนเท่านั้น ซึ่งเขาไม่สนใจ ตอนนี้เขาอยากจะไปอาบน้ำและนอนพักแล้ว... 

         Fin...
         
         ................................

         .......................

         .............

         .....

         .

         เสียงขออนุญาตดังผ่านห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน เมื่อเขาอนุญาต สป็อคสาวเท้าเข้ามาประชิด อุ้มแล้วโยนเขาไปที่เตียง ได้ยินเสียงสป็อคสั่งคอมพิวเตอร์ล็อคห้อง แล้วฉีกชุดนอนของเขาออก ตามด้วยชุดของตนเอง

         "หลังจากนี้...ผมคงต้องขอรบกวนคุณหน่อยนะครับ กัปตัน..." เสียงของสป็อคแหบพร่า แล้วมันฟังเซ็กซี่ชะมัด เขาเห็นความต้องการที่บ้าคลั่งในดวงตาสีน้ำตาลนั้น และความแข็งร้อนที่จ่อแถวๆ ก้นเขา ซึ่งนั้นทำให้เขาปากแห้งพร่าจนต้องเลีบริมฝีปาก

         "จิม...เรียกฉันว่าจิมสิ..." เขาสั่งและดึงสป็อคประกบจูบทันที
         
         หลังจากนั้นเหล่าลูกเรือก็เห็นกัปตันและต้นเรือที่หายหน้าหายตาไป 6 วัน โดยไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุ...

         Fin!...


        *******************

         ส่วนท้ายนี้ผู้แปลอยากจะเสริมเข้าไปสนองตนเอง เพราะถ้าเอาจริงๆ ช่วงฟอนฟาร์ของวัลแคน จะใช่เวลายาวนานมาก และไม่สามารถควบคุมได้เลยคะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

(Fic Harry Potter) Same Old, Same Old SS/HP

(Fic Harry Potter) A Single Change - TMR/HP 8

(Fic Harry Potter) Strength of a Child's Mind - AllHarry 6